มีคำกล่าวว่า “ทุกอาชีพล้วนมีพรสวรรค์ในแบบของตน” แต่หากพูดถึงธุรกิจที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ประกอบการมือใหม่ หนึ่งในตัวเลือกที่โดดเด่นและน่าลงทุนที่สุดคงหนีไม่พ้นธุรกิจฟาสต์ฟู้ดประเภท ไอศกรีมชานมไข่มุก  ด้วยเกณฑ์การเริ่มต้นที่ไม่ซับซ้อนและงบประมาณการลงทุนที่ไม่สูงจนเกินเอื้อม ธุรกิจนี้จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ

-คู่สามีภรรยาที่ต้องการเริ่มต้นกิจการเล็ก ๆ ด้วยกัน

-เยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มองหาความมั่นคงในอาชีพ

รวมถึงบัณฑิตจบใหม่ที่อยากสร้างธุรกิจเป็นของตนเองตั้งแต่ต้น  โอกาสในการเติบโตของธุรกิจประเภทนี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะผู้มีประสบการณ์เท่านั้น หากแต่เปิดกว้างสำหรับทุกคนที่มีความตั้งใจและพร้อมเรียนรู้

　　แต่ใครก็ตามที่มีประสบการณ์เล็กน้อยในอุตสาหกรรมการจัดเลี้ยงรู้ดีว่าการเปิดร้านที่ดีนั้น นอกจากจะต้องขยันขันแข็งแล้ว ยังมีอีกประเด็นสำคัญมาก นั่นคือการรู้วิธีดำเนินการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่ "วุ่นวาย" มากขึ้น ผู้ประกอบการที่ต้องการทำธุรกิจฟาสต์ฟู้ดประเภทไอศกรีมชานมไข่มุกให้ดีจะต้องมีประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องบางประการ หรือเลือกแบรนด์ไอศกรีมชานมไข่มุกที่เชื่อถือได้ และใช้การสนับสนุนจากแพลตฟอร์มเพื่อดึงดูดผู้บริโภค

　　การเลือกแบรนด์ไอศกรีมชานมไข่มุกที่เชื่อถือได้ไม่เพียงแต่จะได้รับการสนับสนุนด้านการดำเนินงานจากสำนักงานใหญ่ของแบรนด์เท่านั้น แต่ยังสามารถซื้อวัตถุดิบคุณภาพสูงจากสำนักงานใหญ่ในราคาที่เอื้อมถึงได้อีกด้วย นี่อาจเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เข้าร่วมแบรนด์ไอศกรีมชานมที่เปิดโอกาสทางธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโอกาสทางธุรกิจที่เปิดกว้างของแบรนด์ไอศกรีมชานมสามารถนำข้อดีต่อไปนี้มาสู่ผู้ประกอบการ:

        1. ความน่าเชื่อถือของแบรนด์

        การเลือกแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับในตลาด เปรียบเสมือนการได้รับ “เครดิตทางธุรกิจ” ซึ่งสร้างความมั่นใจให้ทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภค ลูกค้ามักหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากสินค้าไร้มาตรฐาน
และยินดีจ่ายมากขึ้นเพื่อแลกกับความมั่นใจในคุณภาพของแบรนด์ใหญ่ นั่นหมายความว่า แบรนด์ที่แข็งแกร่งสามารถกลายเป็น “เครื่องมือประชาสัมพันธ์ฟรี” ให้ธุรกิจของคุณได้โดยไม่ต้องลงทุนด้านการสร้างความน่าเชื่อถือด้วยตนเอง

        2. การสนับสนุนด้านการดำเนินงานแบบครบวงจร

        การร่วมธุรกิจกับแบรนด์ที่มีระบบสนับสนุนที่ดี โดยเฉพาะแบรนด์ที่ใช้โมเดล “ผลิตในร้านทั้งหมด” (All-in-one In-store Production) จะช่วยให้ผู้ประกอบการได้รับการสนับสนุนในทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็น

การเลือกทำเล  การออกแบบร้าน  การฝึกอบรม  การเปิดร้านและบริหารจัดการ  รวมถึงการดูแลหลังการขายและการส่งเสริมการตลาดกล่าวได้ว่าเป็นการ “ยืนอยู่บนไหล่ของยักษ์” ทำให้แม้แต่มือใหม่ก็สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้อย่างมั่นใจและเป็นระบบ พร้อมครูฝึกผู้เชี่ยวชาญคอยแนะนำตลอดเส้นทาง

        3. ระบบจัดหาวัตถุดิบที่มีประสิทธิภาพ

หนึ่งในอุปสรรคหลักของผู้ประกอบการไอศกรีมและเครื่องดื่ม คือการจัดหาส่วนผสมที่ได้คุณภาพและมีต้นทุนที่เหมาะสม หากไม่มีเครือข่ายซัพพลายเออร์ที่เชื่อถือได้
ก็อาจพบกับปัญหาทั้งเรื่องราคาและมาตรฐานของวัตถุดิบ  แต่หากเลือกแบรนด์แฟรนไชส์ที่มีโรงงานผลิตและระบบโลจิสติกส์ของตนเอง โดยเฉพาะระบบโซ่ความเย็น (Cold Chain) คือ ระบบการเคลื่อนย้ายสินค้าที่ต้องควบคุมอุณหภูมิ
เพื่อควบคุมสินค้าให้อยู่ในอุณหภูมิที่ต้องการ เพื่อให้มีประสิทธิภาพ ที่จะสามารถควบคุมทั้งต้นทุนและคุณภาพได้อย่างมั่นคง ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มีความสม่ำเสมอและรักษามาตรฐานได้ในระยะยาว